เชื้อไวรัส HPV เชื้อแปปิโลมา หรือเอชพีวี (HPV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว และก่อที่ก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ในหน้านี้ทางเว็บไซต์ของเราจึงอยากจะมานำเสนอเกี่ยวกับโรคนี้ ข้อมูลจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย


เชื้อไวรัส HPV คืออะไร

เชื้อแปปิโลมา หรือเอชพีวี (HPV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว และก่อที่ก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยการสัมผัสเชื้อโดยตรง หรือการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกาย มักไม่มีอาการแสดงใด ๆ จึงอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพบเชื้อชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมากที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 และ 18

ปัจจัยเสี่ยง

  1. สูบบุหรี่
  2. มีคู่นอนหลายคน
  3. มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
  4. ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุน้อย
  5. มีบุตรจำนวนมาก

ป้องกันและลดความเสี่ยงได้

  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 3 ปี และตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ทุก 5 ปี
  • หากมีอาการผิดปกติทางนรีเวช ไม่ควรนิ่งนอนใจปล่อยทิ้งไว้ ควรเข้ารับการตรวจหรือปรึกษากับสูตินรีแพทย์
  • ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ทางเลือกของการเสริมภูมิคุ้มกันโดยในปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ

  • วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ (Bivalent vaccine: Cervarix) คือ วัคซีนที่ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
  • วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (Quadrivalent vaccine: Gardasil ) คือ วัคซีนที่ป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ซึ่งสายพันธุ์ 6 และ 11 ทำให้เกิดหูดหงอนไก่
  • วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (6/11/16/18/31/33/45/52/58)

วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์กับการป้องกันโรค  ในผู้หญิงอายุ 9-45 ปี ช่วยป้องกันโรคดังนี้

  • มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 2 ในผู้หญิงไทย
  • มะเร็งปากช่องคลอด และช่องคลอด (Vulvar and vaginal cancers)
  • รอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก ปากช่องคลอด ช่องคลอด และทวารหนัก
  • มะเร็งทวารหนัก (Anal cancer)
  • หูดที่อวัยวะเพศ

เกณฑ์ในการฉีดวัคซีนจะแบ่งตามช่วงอายุ โดยวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่บรรจุในวัคซีน ได้มากกว่า 90%

  1. อายุ 9 – 14 ปี ฉีดจำนวน 2 เข็ม
  2. สำหรับอายุ 15 ปี ขึ้นไป ฉีดจำนวน 3 เข็ม

เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรฉีดวัคซีนในช่วงเด็ก หรือก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพราะหากได้รับเชื้อมาแล้วจะไม่สามารถป้องกันจากเชื้อนั้นได้